รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดงานเทศกาลอาหารประจวบคีรีขันธ์ “Prachaup Food Festival 2022” วันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก ที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ และสร้างภาพลักษณ์ของตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ซึ่งถือว่าเป็นอีกจุดหมายของนักท่องเที่ยว โดยพิธีเปิดร่วมกันปรุงเมนูพิเศษ “ข้าวผัดสับปะรดเมืองสามอ่าว” 64 กะทะ ให้กับผู้เข้าร่วมงานได้ลองลิ้มชิมรส ภายในงานมีบูทโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ในพื้นที่นำเมนูอาหารขึ้นชื่อมาร่วมงานมากกว่า 50 ร้าน มีทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากร่วมเที่ยวงาน
(วันนี้ 16 กันยายน 2565 ) บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงาน”เทศกาลอาหารประจวบคีรีขันธ์ “Prachaup Food Festival 2022” พร้อมด้วย นายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ,นายอุดมสุข นิ่มเซียน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ เชฟจากโรงเรงแรม รีสอร์ท ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ร่วมกัน”ปรุงเมนูพิเศษ “ข้าวผัดสับปะรดเมืองสามอ่าว”ถึง 64 กระทะ แจกจ่ายให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับประทานกันอีกด้วย พร้อมการแสดงชุด ข้าวผัดสับปะรด ของดีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งภายในงายยังมีบูธอาหารเมนูขึ้นชื่อของแต่ละโรงแรม รีสอร์ท ในพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนร้านอาหารท้องถิ่น ทั้งคาว หวาน และสินค้าโอทอป. มาร่วมออกร้านภายในงานกว่า 50 ร้านในราคาที่ไม่แพง ทำให้แต่ละร้านค้าขายดีได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยว เดินซื้ออาหารรับประทาน และเดินเที่ยวชมงานในบรรยากาศติดทะเลอ่าวประจวบคีรีขันธ์
โดยงานดังกล่าวจะมีขึ้นไปถึงวันที่ 18 กันยายน นี้
ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดขึ้นเพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเมืองในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อันจะนำมาถึงการสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ทั้งชุมชน ตลอดจนผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว
ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนท่องเที่ยวที่อำเภอหัวหินแล้ว ก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวในตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ระยะทางเพียง 100 กิโลเมตรเท่านั้น ในพื้นที่มีแหล่งทั้งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยวธรรมชาติ หาดทราย ชายทะเล ตลอดจนขึ้นเขาชมวิวบนเขาช่องกระจกแบบ360 องศา ท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ วัดวาอารามเก่าแก่ ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่สวยงาม ตลอดจนที่พัก และอาหารซีฟู้ดราคาไม่แพง
ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มุ่งหวังต้องการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ว่านอกจากพื้นที่อำเภอหัวหิน แล้วตัวอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับการกล่าวขานกันว่าเป็น”เมืองสามอ่าว”ก็จะเป็นอีกอำเภอหนึ่งที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวต่อไป ดังนั้นจึงร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวขึ้นมาในครั้งนี้ งานจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 18 กันยายนนี้ จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้เข้ามาท่องเที่ยวกัน
ด้านนายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนัอกงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าปัจุบันการท่องเที่ยวเชิงอาหารเป็นเครื่องมือบอกเล่าเรื่องราวท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวและอาหาร จึงนำเอาวัตถุดิบที่มีเอกลักษณ์ มีความสดใหม่ มารังสรรค์เป็นเมนูอาหาร เพื่อเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวให้มาลิ้มลอง กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งสามารถกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ภายในงาน3วันมีทั้งบูทอาหาร บุฟเฟ่ตอาหารทะเลราคาถูก วันละ1รอบในช่วงเย็นเท่านั้น และการแข่งขันทำอาหารค้นหาสุดยอดเชฟ ตลอดจนคอนเสิร์ตจากศิลปิน ซึ่งประเมินจากวันแรกมีทั้งนักท่องเที่ยวสายช็อป สายชิม เข้ามาท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหาร มาร่วมออกบูทในช่วงของการจัดงาน บอกว่าได้รับความสนใจเข้ามาเลือกซื้อ นั่งทานกัน โดยราคาอาหารในการจัดงานถูกกว่าในโรงแรม. และคัดเอาเมนูเด็ดมา อาทิ ข้าวผัดปลาทู แกงเขียวหวานใบชะพลูกับกุ้งนน้ำพริกไข่ปู. ส้มตำยอดมะพร้าว. เมี่ยงเสวย. ราดหน้าเส้นกรอบปลาทอง บาร์บีคิวฯลฯ ทั้งนี้เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่า อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีศักยภาพทั้งอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว ททท.จึงมีแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวในลักษณะรูปแบบต่างๆในช่วงที่เหลืออีก3เดือนที่จะสิ้นปี