จากที่ฐานปฏิบัติการ ฐานแยก กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธิน ที่544 หมู่ 4 บ้านทุ่งกร่าง ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เจอลูกช้างป่าพลัดหลงเข้ามาในฐาน ไม่ยอมไปไหน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งในเบื้องต้นได้มีการประสานนายสัตวแพทย์จากสำนักบริหารอนุรักษ์ ที่2 (ศรีราชา) เพื่อมาตรวจร่างกาย จากการสันนิษฐานของ จนท.คาดว่าลูกช้างป่าน่าจะถูกช้างป่าคัดออกจากโขลง เนื่องจากมีการผิดธรรมชาติที่ว่า เมื่อลูกช้างพลัดหลงจากแม่และโขลง จะมีแม่ช้างส่งเสียงเรียกหาสนั่นป่า และลูกช้างจะร้องรับเสียงจนหากันเจอ แต่ในกรณีนี้ ทหารพรานนาวิกโยธินที่อยู่ในฐานไม่ได้ยินเสียงแม่ช้างร้องเรียกหาลูกที่พลัดหลงแต่อย่างไร จึงร่วมกันตั้งชื่อลูกข้างป่าตัวนี้ว่า เจ้าตุลา ตามเดือนที่พบเจอ และรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับตัวไปดำเนินการต่อไป โดยลูกช้างมีอาการอ่อนแรง มีแก๊สในกระเพาะ แพทย์ต้องให้น้ำเกลือ และดูแลอย่างใกล้ชิด
โดยทางด้านสวนนงนุชพัทยา นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช พัทยา ได้รับการประสานงานจาก กรมอุทยานประสานงานมาในการสนับสนุนขอน้ำนมช้างจากแม่ช้างในสวนนงนุชพัทยา จึงได้มอบหมายให้
นายสัตวแพทย์ เผด็จ ศิริดำรง นายสัตวแพทย์ ประจำสวนนงนุช เมืองพัทยา เร่งฉีดยาเร่งน้ำนมจากแม่ช้างในสวนนงนุช ซึ่งมีแม่ช้างพึ่งตกลูกจำนวน 4 เชือก จากนั้นได้รีดนมช้างเพื่อนำไปให้ลูกช้างตุลาอย่างเร่งด่วน
นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช พัทยา กล่าวว่าหลังได้รับการประสานงานจากทางอุทยานในการขอสนับสนุนช่วยเหลือน้ำนมช้างจึงได้รีบให้ทางหมอเผด็จ และควาญช้างได้นำช้างที่พึ่งตลอดลูกจำนวน 4 เชือกมารีดนมโดยสามารถรีดนมแม่ช้างได้กว่า 500 ซีซี รวมถึงยาต้านไวรัส ก่อนรีบนำไปให้ พรายตุลา ช้างเพศผู้ ซึ่งมีอาการอ่อนเพลีย เนื่องจากไม่ได้กินนม ต้องเอานมช้างที่สวนนงนุช ไปให้เพื่อจะได้ให้ พรายตุลา มีสุขภาพแข็งแรงก่อน