วันที่ 7 ม.ค. 66 เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. นายนล สุวัจนานนท์ นายก อบต.เกาะหมาก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุไหม้เรือสปีดโบ้ท ที่จอดหลบคลื่นลมอยู่ที่อ่าวทองหลาง หมู่ที่ 1 ต. เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด ขอความช่วยเหลือสกัดดับไฟด้วย หลังรับแจ้งจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ อบต.เกาะหมาก พร้อมชาวบ้าน นำอุปกรณ์การดับไฟไปให้ความช่วยเหลือ
ไปถึงที่เกิดเหตุที่ท่าเทียบเรืออ่าวทองหลาง พบไฟกำลังลุกไหม้เรือสปีดโบ้ทที่จอดหลบคลื่นลมอยู่ จึงนำอุปกรณ์ดับไฟช่วยกันสกัดดับไฟแต่จากสภาพคลื่นลมพัดแรงทำให้ไม่สามารถสกัดดับไฟได้ทันท่วงที อีกทั้งไฟโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และรุนแรงมาก นอกจากนี้ยังเกรงจะเกิดระเบิดจากไฟลุกไหม้เรือในครั้งนี้ด้วย จนสุดท้ายเรือถูกไฟไหม้ไปทั้งหมด 7 ลำประกอบด้วย เรือซีเทล 2 ลำ เรือปาหนัน 2 ลำ เรือสวนสุข 1 ลำ เรือเดอะหมาก 1 ลำและเรือไม้โชคบุญชู 1 ลำ โดยเรือทุกลำถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดทั้งตัวเรือและเครื่องยนต์ จนเรือจมลงใต้น้ำทั้งหมด มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
นายกอบต.เกาะหมาก เปิดเผยว่าช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงคลื่นลมพัดแรง เรือสปีดโบ้ทจึงพากันมาจอดหลบคลื่นลม โดยจอดรวมกันทั้ง 7 ลำ ขณะลูกเรืออยู่บนเรือบ้าง ขึ้นจากเรือบ้าง จู่ๆเกิดไฟลุกไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ และประกอบกับลมพัดแรงทำให้ไฟลุกลามไหม้ต่อๆกันมาจนครบทุกลำ ทำให้เรือทั้ง 7 ลำ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างไร ซึ่งทางอบต.เกาะหมาก ได้รายงานเหตุการณ์ให้นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผวจ.ตราดทราบแล้ว ในเรื่องดังกล่าวทำให้เรือสปีดโบ้ทที่วิ่งไปเกาะหมากจำนวนเที่ยวลดลงต่อการรับนักท่องเที่ยวเดินทางกลับฝั่งตัวเมืองตราดได้ ทางอบต.เกาะหมากกำลังติดต่อหน่วยงานทหารและศรชล และเรือสปีดโบ๊ทเกาะกูดในการนำเรือช่วยขนส่งนักท่องเทีย่วในวันรุ่งขึ้นต่อไป ซึ่งขณะนี้เรือสปีดโบ้ทที่ยังมีเหลือที่เกาะหมากทั้งหมด คือเรือลีลาวดี 3 ลำ เอ็มมารีน 3 ลำ สำหรับปัญหาคือจะต้องทำการกู้ซากเรือที่จมอยู่ในอ่าวทองหลางซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากมากเพราะเรือที่จมทั้งหมด 7 ลำด้วยกัน ต้องรอดูทางกองพิสูจน์หลักฐานจะว่าอย่างไรต่อไป
พูลศักดิ์ บุญลอย , ศิวพงศ์ บุญลอย : รายงาน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดตราด
