ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ททท.สำนักงานประจวบฯ ร่วมกันเดินหน้าโปรโมทแหล่งท่องเที่ยว ณ ป่าโกงกาง 100 ปี วนอุทยานปราณบุรี เพื่อส่งเสริมการท้องเที่ยวในแคมเปญ ปักหมุด HIDDEN WOW ประจวบคีรีขันธ์ 8 อำเภอ และยอมรับว่าที่ป่าโกงกางผืนนี้มีความ WOW ซึ่งนักท่องเที่ยวมาแล้วต้องมาปักหมุดและเช็คอิน โดยเผยว่าเป็นที่น่ายินดีว่าปี 2565 ประจวบคีรีขันธ์ มีรายได้จากท่องเที่ยว 3 หมื่นกว่าล้านบาท มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ 8 ล้าน 6 แสนคน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
วันที่ 18 มกราคม 2566 ที่วนอุทยานปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รอง.ผวจ .ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นางสาวแสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นำ “น้องเอ็นดู” ทูตประสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์โปรโมทแหล่งท่องเที่ยว ณ ป่าโกงกาง 100 ปีซึ่งอยู่ภายในวนอุทยานปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว ปักหมุด HIDDEN WOW ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่วนอุทยานปราณบุรี และนายสมเดช นาคดี หน.กลุ่มเรือนำเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ป่าชายเลน พาเดินเยี่ยมชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1000 เมตร ตลอด2ข้างทางซึ่งมีพันธุ์ไม้ป่าโกงกางหลายชนิดด้วยกัน ภายในอากาศเย็นสบายมีต้นโกงกางที่พุ่งสูงขึ้นไปปกคลุมซึ่งป่าโกงกางจุดนี้มีอายุ 30-50 ปีขึ้นไป ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงานวนอุทยานปราณบุรี และบริเวณหอชมวิว ทุ่งโปรงทอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์และจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวที่เดินเข้ามาแล้วจะต้องแวะถ่ายรูปและขึ้นไปยังหอชมวิว 360 องศากัน ซึ่ง “ทุ่งโปรงทอง” จุดนี้จะมีสีเหลืองทองหากมองจากหอชมวิวด้านบนลงมาสวยงามอย่างมาก
โดยนายเสถียร เจริญเหรียญ ผวจ.ประจวบฯ และคณะ พร้อมสื่อมวลชนเดินทางไปลงเรือนำเที่ยวของกลุ่มให้บริการนำเที่ยว เพื่อนุรักษ์ป่าชายเลน และล่องไปตามคลองเก่า-ปากน้ำปราณและชมวิธีชีวิตของชาวประมงสองฝั่งแม่น้ำปราณ โดยทั้งหมดได้ขึ้นที่ “ท่าเรือป่าโกงกาง 100 ปี” โดยมีนายสมเดช นาคดี หรือลุงเตี้ย หน.กลุ่มเรือนำเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ป่าชายเลน และเจ้าหน้าที่วนอุทยานปราณบุรี ได้พาคณะเดินเที่ยวชม ป่าโกงกางอายุกว่า 100 ปี ตามเส้นทางสะพานไม้บริเวณจุดนี้จะมีท่าเทียบเรือให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปสัมผัสกับผืนป่าชายเลนที่สำคัญ ซึ่งภายในป่าโกงกาง 100 ปีแห่งนี้ มีต้นโกงกางใบเล็ก 80 เปอร์เซ็นต์ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้เรียนรู้ตามป้ายสื่อความหมาย และร่มรื่นด้วยต้นโกงกางที่แต่ละต้นสูงใหญ่มองขึ้นไปจะเห็นแต่ความเขียวขจีของใบโกงกางใบเล็ก สิ่งหนึ่งที่บ่งชี้อายุของป่าโกงกางแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี คือ ต้นโกงกางทีมีขนาดใหญ่ที่สุด และสูงที่สุดอยู่ที่นี่ ในป่าโกงกางแห่งนี้นอกจากจะเห็นรากขนาดใหญ่ที่แทงลงไปในผืนดินแล้วจะได้เห็นรากอากาศ ของต้นโกงกางใบเล็กที่พุ่งออกจากด้านบนลงมา บ่งบอกถึงว่ามีอายุมากอย่างน้อยกว่า 100 ปีขึ้นไป ซึ่งแทบจะพูดได้ว่าในเนื้อที่ 20 ไร่ป่าโกงกาง 100 ปีแห่งนี้ ส่วนใหญ่มีอายุของต้นโกงกางใบเล็กตั้งแต่ 100 ปีขึ้นไป จึงนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดยนายเสถียร เจริญเหรียญ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าจุดนี้ถือว่าเป็น 1 ในเส้นท่องเที่ยวเชิงนิเวศและมีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการเดินทางท่องเที่ยวจากอ่างเก็บน้ำเขาเต่า หัวหิน มายังจุดนี้ได้ใช้เวลาไม่นานเส้นทางสะดวก ซึ่งเป็นอีก 1 จุดหมายของแคมเปญ ปักหมุด HIDDEN WOW ประจวบคีรีขันธ์ ที่ต้องช่วยกันส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่อไป
ซึ่งสิ่งสำคัญในการท่องเที่ยวในพื้นที่ป่าโกงกาง 100 ปี วนอุทยานปราณบุรี ยังมีประโยชน์ต่อชุมชนในพื้นที่ตามมา ทั้งการที่ชุมชนรวมกลุ่มนำเรือมารับจ้างให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าไปชมป่าโกงกาง100ปี และยังมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป มาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งก็จะทำให้ชุมชนมีรายได้ตามมาจากนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สิ่งสำคัญคือการท่องเที่ยวที่ผืนป่าชายเลน แห่งนี้เป็นการท่องเที่ยวที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม และมีการอนุรักษ์ทำให้ผืนป่าโกงกางที่มีความสมบูรณ์
นายเสถียร เจริญเหรียญ ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่าทั้งนี้จากตัวเลขกองเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม2565 ปีที่ผ่านมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ชาวต่างชาติ ตลอดทั้งปีอยู่ที่ 8 ล้าน 6 แสนคน ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 3หมื่นกว่าล้านบาท นับเป็นจังหวัดต้นๆของเมืองท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าในปี 2566 ตัวเลขนักท่องเที่ยวและรายได้ จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นนอน เพราะจังหวัดมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว8อำเภอ มีการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ-ภาคเอกชน หน่วยงานทางการท่องเที่ยว ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบต่างๆอย่างต่อเนื่อง และการนำ “น้องเอ็นดู” ทูตประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปช่วยเผยแพร่ประสัมพันธ์ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายต่อไปตลอดทั้งปีนี้
วิมล ทับคง : รายงาน
ผู้สื่อข่าวจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์