วันที่ 30 มกราคม 2566 ที่ลานเขื่อนริมทะเลบ้านทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสมเจตน์ เจริญทรง นายอำเภอทับสะแก เป็นประธานแถลงข่าว เทศกาลว่าวและธงแฟนตาซึ ครั้งที่1 ทับสะแก จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 4-5กุมภาพันธ์ ณ บริเวณลานเขื่อนริมทะเลบ้านทุ่งประดู่ อ.ทับสะแกจ.ประจวบฯเพื่อกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภทับสะแก ให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ซึ่งจะนำไปสู่รายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสูชุมชน
โดยเฉพาะอำเภอทับสะแก เป็นหนึ่งในอำเภอที่มีศักยภาพมากอำเภอหนึ่ง มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งฝั่งทะเล ได้แก่เกาะจาน เกาะท้ายทรีย์แหล่งดำน้ำดูปะการังที่สวยงามอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ตลอดจน น้ำตกห้วยยาง น้ำตก เขาล้าน และเขาหลวง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง รวมทั้งการท่องเที่ยวประเภทวัด การท่องเที่ยวชุมชน. โดยกลุ่มรักหาดทับสะแก ร่วมกับ อำเภอทับสะแกอบต.ทับสะแก สมาคมนักบินว่าวแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด ที่ริมทะเลบ้านทุ่งประดู่ โดยอำเภอทับสะแก มีทั้งสินค้าทางการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ชุมชน ทั้งผลไม้แปรรูป อาหารทะเล
มีนายโพสิทธิ์ เครือวัลย์ ประธานกลุ่มรักหาดทับสะแก รองประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ และนายวิบูลย์ เทียนทอง นายก.อบต.ทับสะแก นายสัญญา พุทธเจริญลาภ นายกสมาคมนักบินว่าวแห่งประเทศไทย ว่าที่ร้อยตรีกรกฏ โอภาส รอง.ผอ.ททท.ประจวบฯ นายสรรชัย พรามณี ผู้ใหญ่บ้านทุ่งประดู่ และกำนันตำบลทับสะแกหน่วยงานเกี่ยวข้องผู้ประกอบการท่องเที่ยว และชาวชุมชนบ้านทุ่งประดู่ เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าว
ซึ่งภายในงานยังนำมาสคอตค่างแว่น”น้องเอ็นดู”ทูตสัญลักษณฺในการส่งเสริมภาพลักษณ์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาร่วมเล่นว่าว สร้างสีสันเชิญชวนให้มาเที่ยวงานว่าว
ด้านนายสัญญา พุทธเจริญลาภ นายกสมาคมนักบินว่าวแห่งประเทศไทย นำว่าวมาโชว์ทั้งว่าวจุฬา ว่าววงแหวน ว่าวฟุตบอล ว่าวผาดโผน หรือว่าวสตั้นไคท์ ว่าวสาย ว่าวหัวใจ ซึ่งว่าวมีอยู่ 3 ชนิด1 ว่าวเพื่อการกีฬา 2 ว่าวแฟนตาซี 3.ว่าววัฒนธรรม วันงานคาดว่าจะมีว่าวมาผาดโผนบนท้องฟ้า มากว่า 100ตัวกว่า10ชุด ผู้ที่ชื่นชอบต้องไม่พลาดงานนี้
ขณะเดียวกันนายโพสิทธิ์ เครือวัลย์ ประธานกลุ่มรักหาดทับสะแก กล่าวว่าในงานยังมีกิจกรรมนำเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆในพื้นที่มาวาดรูปลงในว่าว และจะมอบว่าวให้กับเยาวชน 100ตัวซึ่งนอกจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการสอนให้เยาวชนได้เรียนรู้เรื่องการเล่นว่าวไทยและว่าวนานาชาติ และร่วมกันอนุรักษ์ว่าวไทยให้คงอยู่ต่อไปเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย นอกจากนั้นยังทีร้านค้าชุมชนนำร้านอาหาร ของฝากที่ขึ้นชื่อกว่า 50ร้านมาจำหน่าย ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน
วิมล ทับคง : รายงาน
ผู้สื่อข่าวจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์
