วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าอธิการณรงค์ศักดิ์ ธีรวโร เจ้าอาวาสวัดท่าม่วง และเจ้าคณะตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้พาผู้สื่อข่าวเยี่ยมชมภายในวัด โดยเล่าว่าเดิมวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่อายุราว 82 ปี กระทั่งปี 2559 ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จึงเริ่มพัฒนาวัดให้มีสวยงาม สะอาด ชาวบ้านอยากมาทำบุญ โดยเริ่มพัฒนาวัดแบบเรียบง่าย โดยตนเอง พระลูกวัด และลูกศิษย์ ช่วยกันทำ ไม่ได้จ้างคนงานหรือมีผู้รับเหมาแต่อย่างใด มีความคิดว่า ชื่อ”วัดท่าม่วง” ก็อยากให้วัดมีสีม่วง ซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์ เป็นที่จดจำได้ง่าย ก็เริ่มต้นทาสีม่วงที่โบสถ์ก่อน จากนั้นก็ทาจุดอื่นๆ เช่น กำแพง ศาลาการเปรียญ ป้ายชื่อวัด หอระฆัง ถ้านับระยะเวลาที่เริ่มทำตั้งแต่ 2559 จนถึงปัจจุบัน 7 ปี ขณะนี้แล้วเสร็จไปราว 70 %
จุดที่เป็นไฮไลท์ของ”วัดท่าม่วง” ได้แก่ โบสถ์ที่ทาสีม่วงสลับกับสีทอง รวมทั้ง กำแพงแก้ว ใบเสมาก็ทาสีม่วงสลับทองด้วยเช่นกัน ดูแล้วสวยงามแปลกตา และเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะช่วงท้องฟ้าเปิด แดดออกสีม่วงและสีทองจะส่องประกายสวยงดงาม ภายในโบสถ์ ประดิษฐานพระพุทธชินราช เป็นพระประธาน บนเพดานจะแปลกกว่าวัดทั่วไปที่ใช้ลวดลายไทย หรือภาพพุทธประวัติ แต่ที่นี่จะใช้สลากกินแบ่งรัฐบาลมาติดบนเพดานแทนวอลเปเปอร์ ส่วนช่องหน้าต่างบานประตูทั้งด้านหน้าโบสถ์ ประตูหลังโบสถ์ รวมแล้ว 14 ช่อง ก็จะใช้เหรียญสลึง เหรียญสองสลึง และเหรียญสองบาท ซึ่งเป็นเหรียญที่มีสีทองมาติดเอาไว้ ซึ่งทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาล และเหรียญสีทองนั้น มีพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าวส่งมาให้จากทั่วประเทศ
หลวงพ่อณรงค์ศักดิ์ บอกว่า การติดสลากกินแบ่งรับบาล ตนและพระลูกวัดช่วยกันทำในตอนกลางคืน ช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมา ใช้เวลา 3 เดือนเต็มจึงแล้วเสร็จ ส่วนการติดเหรียญสีทองก็ทยอยทำกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จ หลวงพ่อณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญสูงสุดของการที่ทาสีม่วง ก็เพื่อต้องการถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระองค์ท่านทรงงานไม่แพ้ในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมทั้งเหรียญที่นำมาก็เป็นเหรียญในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะในอนาคตอาจจะไม่มีเหรียญเหล่านั้นให้เยาวชนในรุ่นหลังได้เห็นอีก อยากอนุรักษ์ไว้ เยาวชนเข้ามาแล้วก็จะได้เห็นเหรียญในสมัยรัชกาลที่ 9 ทีมีคุณค่าเหล่านี้อยู่คู่กับโบสถ์สีม่วง เหรียญทอง “วัดท่าม่วง” ตราบไปอีกยาวนาน อีกทั้ง ถือเป็นกุศโลบายที่ต้องการพัฒนาวัด ให้มีความแปลกมีพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาทำบุญ ท่องเที่ยว กราบไว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพราะ”วัดท่าม่วง”แห่งนี้ เป็นวัดเล็กๆ ในอำเภอบางสะพานน้อย อำเภอสุดท้ายของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยากให้ประชาชนแวะเวียนเข้ามา ตอนนี้ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวจากการบอกกล่าวหรือทางสื่อสังคมออนไลน์ กันก็เดินทางมาชมกัน ในอนาคต โบสถ์แห่งนี้ก็จะเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวประเภทวัดอีกแห่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นอกจากโบสถ์แล้วที่”วัดท่าม่วง”ยังมีทั้งบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วิหาร ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่อายุ 100 ปี หลายองค์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทั่วไปทั้งหลวงปู่รอด พระพุทธรูปที่ทำจากไม้จันทร์หอม ซึ่งลอยน้ำมาในคลองหลังวัด และนำขึ้นมาไว้ในวิหารแห่งนี้ รวมทั้งหลวงปู่ดำ หลวงปู่พระประธานพร เก่าแก่ และพระพุทธรูปปางต่างๆที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในวิหารแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้นแม้แต่”ป้ายวัดท่าม่วง”ที่อยู่บริเวณทางเข้ายังนำเหรียญมาติดไว้ตามตัวอักษร
ด้านนายปรีดา เจริญพักตร์ เจ้าของเกาะทะลุไฮแลนด์รีสอร์ท อำเภอบางสะพานน้อย และนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาเยี่ยมชม โบสถ์สีม่วงเหรียญทอง ณ วัดท่าม่วง ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย กล่าวว่ารู้สึกถึงความสวยงาม เข้ามาแปลกตา สะอาด และยิ่งภายในโบสถ์มีการนำสิ่งของที่เหลือใช้โดยเฉพาะสลากกินแบ่งรัฐบาลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ สิ่งสำคัญเหรียญต่างๆสมัยรัชกาลที่ 9 ซึ่งนำมาประดับในผนังด้านในและตามจุดต่างๆถึงมีคุณค่าทางจิตใจกับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม และได้ระลึกถึงในหลลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้วยถือว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เชื่อว่าโบสถ์สีม่วงเหรียญทอง วัดท่าม่วงแห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก แหล่งท่องเที่ยวประเภทวัดอีกแห่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมและจะส่งผลดีต่อการสร้างรายได้ให้กับชุมชน ตลอดจนผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่อไป
วิมล ทับคง : รายงาน
ผู้สื่อข่าวจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์