นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ แห่ ”ร่อนทอง” ที่บางสะพาน กันคึกคัก

by Kodangkhao

นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เริ่มกลับมาให้ความสนต่างพากันเดินทางไป “ร่อนทอง” ณ คลองทอง บ้านป่าร่อน ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวประกอบกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนโยบายส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว “ร่อนทอง” อำเภอบางสะพาน ตามแคมเปญ ปักหมุด HIDDENWOW ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตอกย้ำส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศเยอรมัน บอกว่าที่ประเทศเค้ามีการเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวประเภทวัฒนธรรม การร่อนทอง ที่อำเภอบางสะพาน จึงเดินทางมาประเทศไทย และพากันมา”ร่อนทอง” ต่างเป็นที่ชื่นชอบ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การเรียนรู้การร่อนทองบางสะพาน บ้านป่าร่อน ตำบลร่อนทอง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงสายเรื่อยไปกระทั่งช่วงบ่าย นายบัวขาว(หรือลุงเล็ก) มิ่งเมือง อายุ 73 ปี เจ้าของศูนย์เรียนรู้การร่อนทองบางสะพาน ต่างพานนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่พากันเดินทางมาเที่ยวที่อำเภอบางสะพาน และได้รับการแนะนำจากผู้ประกอบกาโรงแรม รีสอร์ท ในอำเภอบางสะพานให้มาร่อนทอง กันโดย”ลุงเล็ก”เจ้าของศูนย์บอกเพียงว่านักท่องเที่ยว มาแล้วเช่าเลียง กระป๋อง พลั่วสำหรับตักดิน ในราคาชุดละ 100 บาทเท่านั้นก็สามารถเดินลงไป “ร่อนทอง” ในคลองทองด้านหลังศูนย์เรียนรู้ได้ทั้งวัน โดยหากนักท่องเที่ยวมาร่อนทอง “ลุงเล็ก”ก็จะไปแนะนำวิธีการร่อนทองให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ว่า การร่อนทองมีวิธีการอย่างไรตั้งแต่ตั้งใช้พลั่วตักดินที่กองอยู่ข้างคลอง ใส่กระป๋องและหิ้วลงไปเทใส่ในเลียงซึ่งทำจากไม้ หลังจากนั้นก็จะต้องใช้มือกวาดเอาก้อนกรวดก้อนหินออกก่อน และใช้สองมือจับเลียงแกว่างอยู่ในน้ำจนกว่าดินจะออกไปจนหมด ซึ่งหากใกล้หมดแล้ว สายตาจะต้องคอยดูว่าที่ก้นของเลียงมีก้อนสีเหลือง หรือเป็นเกล็ดสีทองหรือไม่หากเป็นสีทองนั่นแหละคือ”ทอง”

ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับโชคว่าจะเจอหรือไม่บางครั้งร่อนครั้งเดียวก็เจอเกล็ดเล็กๆเท่านั้น แต่หากโชคดีดีอาจเจอเกล็ดใหญ่ก็มี หากนักท่องเที่ยวร่อนได้ทองก็สามารถนำกลับไปได้อีกด้วย เพราะทองบางสะพานถือเป็นทองที่มีพุทธคุณในตัว ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาร่อนทองกัน มากันได้ทั้งวันหยุดหรือวันธรรมดา ซึ่งยอมรับว่าหลังสถานการณ์โควิด คลี่คลายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ตอนนี้ทุกวันเริ่มมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติพากันมาร่อนทอง ซึ่งถือว่าการ”ร่อนทอง”ที่มีมาช้านานนับ100 กว่าปีมาแล้วจนเป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวบ้านตำบลร่อนทอง ที่มีอาชีพร่อนทอง และให้บริการนักท่องเที่ยว สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว เพราะทองที่ร่อนได้ก็รวมๆกันเก็บไว้นำไปขายให้กับร้านทอง หรือบางครั้งนำไปทำเป็นสร้อยข้อมือขนาดน้ำหนัก 2 บาทขายในราคาเส้นถึง1 แสนบาท แต่ละปีอย่างน้อยก็จะขายได้ 2-3 เส้น

ด้านนางปิยนันท์ สะพานแก้ว กรรมการผู้จัดการบางสะพานรีสอร์ท กล่าวว่า ตอนนี้ทางผู้ประกอบการทั้งโรงแรม รีสอร์ท ในอำเภอบางสะพาน ซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชายไทย และต่างชาติ เดินทางเข้ามาพักและท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้นดังนั้น สิ่งสำคัญต้องช่วยกันแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยเฉพาะ “ศูนย์การเรียนรู้การร่อนทอง ที่บางสะพาน”ถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวชุมชนเดินทางสะดวก ที่ต้องช่วยกันแนะนำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไป “ร่อนทอง” กันซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะชื่นชอบ อีกทั้งค่าใช้จ่ายน้อยและหากร่อนทองได้จะมีคุณค่าทางจิตใจ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาต่างประทับใจและสนุกกับการร่อนทอง ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาพักบางสะพาน แล้วสามารถไปร่อนทองกันได้ทุกวัน นอกจากนั้นในฐานะภาคเอกชนยังรู้สึกดีใจที่ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีแคมเปญปักหมุดHIDDENWOW ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการทประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว”ร่อนทอง” อำเภอบางสะพาน ซึ่งจะนำมาซึ่งการสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์ 083-3117303 ศูนย์การเรียนรู้การร่อนทองบางสะพาน ได้ทุกวัน

ส่วนนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันกลุ่มนี้ ที่เดินทางมาจากประเทศเยอมัน เพื่อมาท่องเที่ยวประเทศไทย บอกว่ามาประเทศของเค้ามีการประชาสัมพันธ์หากเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย ให้เดินทางมา “ร่อนทอง” ที่อำเภอบางสะพานจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ เพราะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม ทำให้เมื่อมาถึงประเทศไทยจึงพากันมา”ร่อนทอง”ทันทีและรู้สึกดีใจที่ได้มาทดลอง”ร่อนทอง”ด้วยตนเอง โดยมีเจ้าของศูนย์เรียนรู้ สอนวิธีการร่อนทองให้ ถึงแม้จะยังไม่ได้ทองเลยก็ตามแต่รู้สึกประทับใจกับการมาท่องเที่ยวที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก และจะช่วยเผยแพร่การ่อนทองให้เป็นที่รู้จักต่อไป

วิมล ทับคง : รายงาน
ผู้สื่อข่าวจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์

You may also like

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณโอเคกับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ตกลง Read More