ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 65 เกิดเหตุอาชญากรรมบริเวณ ถนนกระเพรา ม.9 ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง โดยมือปืนเป็นเด็กอายุเพียง 17 ปี ใช้อาวุธปืนยิงแฟนสาว เหตุหึงหวงแฟนสาวรุ่นใหญ่อายุ 49 ปี ใช้อาวุธปืนบุกยิงอย่างอุกอาจที่บ้านพักของ แฟนสาวรุ่นใหญ่ในตอนกลางวัน นายชาคริต อายุ 17 ปี (ผู้ก่อเหตุ) ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ บุกเข้าไปยิ่ง น.ส.ดารุนี อายุ 49 ปี (ผู้ตาย) เข้าที่บริเวณใบหน้าข้างขวา ขณะซักผ้าอยู่ ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ซึ่งเวลาผ่านไปกว่า 20 วัน ทำให้ลูกชายวัย 15 ปี ต้องมากำพร้าแม่ ที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้ต้องสู้ชีวิตหาเงินเลี้ยงชีพส่งตัวเองเล่าเรียน ส่วนพี่สาวก็มีครอบครัวไปแล้วต่างก็ลำบากมีภาระกับครอบครัวตัวเอง ก็ช่วยน้องได้นิดหน่อย และยังอยู่กันคนละตำบล หลังจากที่แม่ถูกยิงจนเสียชีวิตในวันนั้น ด.ช.บี (ลูกชายผู้ตาย) ต้องมาอาศัยอยู่กับตาและยาย เพราะบ้านที่ตนอยู่กับแม่ ตอนแม่ยังมีชีวิต ตอนนี้ก็ไม่มีคนอยู่แล้ว และยายก็มีโรคประจำตัวเนื่องจากผ่าตัดลำไส้มา ทานได้แต่อาหารเหลว ส่วนตาก็ไม่ค่อยแข็งแรงเพราะอายุเยอะและมีปัญหาเกี่ยวกับปอด
ผู้สื่อข่าวได้ติดตามชีวิต ด.ช.บี ที่กำลังช่วยตาทำลอบดักปูขาย เพื่อหารายได้ประทังชีวิต เพราะไปหางานอย่างอื่นทำไม่ได้เนื่องจากเป็นเยาวชน ซึ่งการทำลอบดักปูนั้น รายได้น้อย ไม่พอเลี้ยงปากท้อง ทั้งตา ยาย และตัวเอง วันไหนมีคนมาสั่งทำลอบก็ค่อยทำถึงจะมีรายได้ ไม่มีเงินทุนที่จะไปทำไว้ทีละเยอะๆ ซึ่งการทำลอบก็ใช้เวลาเกือบ 1-2 ชั่วโมง ต่อ 1 อัน หากไม่มีคนมาสั่งทำ วันนั้นก็ไม่มีรายได้ ต้องเอาเงินเบี้ยคนชราที่รัฐบาลให้ตากับยาย เจียดมาใช้ไปก่อน ซึ่งตากับยายจะได้คนละ 600 บาท ซึ่งก็ไม่พอใช้ประทังชีวิตทั้งเดือน ส่วนญาติๆระแวกเดียวกันก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร ก็พอช่วยเหลือเรื่องข้าวปลาอาหารบ้างเป็นบางมื้อ และของใช้เล็กน้อย ส่วนอาชีพตอนนี้ก็มีแค่ช่วยตาทำลอบดักปูขาย ซึ่งก่อนหน้านี้จะเป็น น.ส.ดารุนี (ผู้ตาย) ที่เป็นเสาหลักคอยหาเงินเลี้ยงครอบครัวคนเดียว
ตาและยาย เปิดเผยว่า หลังจากลูกสาวเสียไปสภาพจิตใจก็ย่ำแย่ ยังทำใจไม่ได้ กระทั่งทุกวันนี้ไฟที่เคยเปิดให้ลูกสาวตอนนี้ก็ยังเปิดให้อยู่ เพราะคิดว่าลูกยังไม่ไปไหน การสูญเสียครั้งนี้ทำให้เสียเสาหลักของครอบครัวไป ใครจะดูแลหลานชาย ทั้งค่าเล่าเรียน หลังลูกสาวเสียชีวิตไปแล้วก็ทำกินกันนิดๆหน่อยๆ พอหาเงินประทังชีวิตไปวันวัน เพราะยายก็ร่างกายไม่แข็งแรง พึ่งไปผ่าตัดลำไส้มา ทำอะไรหนักไม่ได้ สวนตาก็อายุเยอะบวกกับมีโรคปอด จึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือหลานยายหน่อยให้เค้าได้มีการศึกษา ในเรื่องของทุนการศึกษา หลานชายเรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียน สุนทรภู่พิทยา ส่วนบ้านของลูกสาวที่เสียชีวิต ตนก็จะเปิดไฟไว้ทุกวัน ของทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม ยังคิดเสมอว่าเค้ายังไม่ไปไหน เพราะเค้าห่วงทุกคนในบ้านมาก
นายอดิศักดิ์ (น้องชายผู้เสียชีวิต) เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า พี่สาวได้มาเข้าฝันให้ตนไปขอร้องให้คนมาช่วยลูกชายเขา ที่ยังเรียนอยู่ เหมือนยังมีห่วงว่าลูกจะไม่ได้เล่าเรียนเพราะหมดเสาหลักที่จะมาดูแลรวมถึง ตา กับยาย ด้วย และยังบอกอีกว่าผู้ตายก็ยังไปเข้าฝัน ในลักษณะเดียวกันนี้กับลูกสาวอีกคนของผู้ตายที่ตอนนี้ไปมีครอบครัวและอยู่อีกบ้านนึงด้วย ก็คิดว่าผู้ตายน่าจะยังเป็นห่วงลูกชาย และตากับยายมากด้านตนก็ช่วยเหลือได้เท่าที่ช่วยได้ เพราะตนเองก็ลำบากมาก