กมธ.บริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา ลงพื้นที่ระยอง ตรวจสอบข้อเท็จกรณี บ.ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ร้องขอความเป็นธรรมหลังถูกให้หยุดประกอบกิจการ ทำให้ได้รับความเสียหาย เชิญหน่วยงานกว่า 13 หน่วยให้ข้อเท็จ จริงขณะที่พนักงานยื่นหนังสือหลังเดือดร้อนตกงานไร้เงินเดือน ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายครอบครัว
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผศ.วราวุธ ตีระนันทน์ ประธานอนุกรรมาธิการ การพัฒนาบริหารระบบราชการแผ่นดิน และบุคลากรภาครัฐ ในคณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดระยอง ตรวจสอบข้อเท็จกรณีบริษัทผู้ผลิตเหล็กเส้น “ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด” ร้องขอความเป็นธรรมหลังถูกให้หยุดประกอบกิจการ ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยได้มีร่วมประชุมรับฟังปัญหาที่ห้องประชุม อบต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทน บ.ซิน เคอ หยวนฯ รวม 13 หน่วย เข้าร่วมประชุมชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าว ให้คณะอนุกรรมาธิการฯ รับทราบ ก่อนที่คณะอนุกรรมาธิการฯ จะได้ลงพื้นที่ไปยัง บ.ซินเคอหยวนฯ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม WHA ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย ดูสภาพปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยมีเหตุร้องเรียนให้หยุดกิจการ ด้านมลพิษทั้งเรื่องปล่อยควัน ส่งกลิ่นเหม็น และเสียงดังคล้ายระเบิดสั่นสะเทือนในโรงงาน กระทบชาวบ้านโดยรอบมาเป็นเวลานาน ขณะที่ทางผู้บริหารซิน เคอ หยวนฯ ยืนยันว่ามีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และการถูกสั่งปิดไม่ชอบด้วยกฏหมาย และอายัดผลิตภัณฑ์เหล็ก ปมพัวพันตึก สตง.ถล่ม
โดยผลการตรวจสอบไม่ใช่ประเด็นเหล็กไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งจากการถูกสั่งปิดดังกล่าว ทำให้ได้รับความเสียหาย พนักงานไม่มีงานทำกว่า 800 คน และมีผู้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว่า 5,000 คน ขณะเดียวกันได้มีตัวแทนพนักงานได้ยื่นหนังสือกับคณะอนุกรรมาธิการฯ เรียกร้องขอให้บริษัทเปิดกิจการ หลังเดือดร้อนหนักต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากโรงงานถูกสั่งปิดนานกว่า 11 เดือน ทำให้ไร้เงินเดือน
ผศ.วราวุธ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริง เพื่อหาทางออก ซึ่งมีพนักงานของบริษัทฯ ดังกล่าว ร้องไปยังคณะอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งเรื่องที่ 1 พนักงาน 800 กว่าชีวิตตกงาน 2.ทางบริษัทฯ ร้องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ลงมาดูว่าไม่ได้ความเป็นธรรมอย่างไร ซึ่งก็ฟังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 10 หน่วยงานแล้ว ได้มีแนวทางร่วมกัน ทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหาการเกิดเพลิงไหม้ครั้งที่แล้วใน 7 ประเด็น ซึ่งก็ได้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และอีกเรื่องคือตัวระบายอากาศ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบแบะได้ให้มีการแก้ไข ซึ่งในการแก้ไขของทางโรงงานฯ ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งได้มีข้อสรุปโดยทางกรมโรงงานฯ กรมควบคุมมลพิษ และอุตสาหกรรมจังหวัด ร่วมกับทางบริษัทฯ จะลงมาดูหน้างานตรวจสอบการแก้ไข ปรับปรุงตัวระบายอากาศให้ถูกต้อง เพื่อ ให้สามารถเปิดดำเนินกิจการได้ต่อไป ส่วนอีกประเด็นในเรื่องของการเอาเหล็กเส้นไปตรวจสอบมาตรฐานจาก 18 กอง ผ่าน 14 กอง ส่วนอีก 4 กอง ที่ส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ก็จะมีการเร่งรัดตรวจสอบให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นธรรมกับทางบริษัทฯ ซึ่งหากผ่านมาตรฐานได้ก็ดำเนินการต่อไป หากไม่ได้จะแก้ไขอย่างไร เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เชื่อว่าบริษัทฯ พอใจในการดำเนินแก้ไขปัญหาครั้งนี้ ซึ่งในส่วนคณะอนุกรรมาธิการฯ ก็จะมีการติดผลตามผลสัมฤทธิ์ของการแก้ไขปัญหาต่อไปด้วย.